การพัฒนาที่ยั่งยืน

บริษัทมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมภิบาล เพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับทุกฝ่าย โดยมีการบริหารจัดการที่ดี มีธรรมาภิบาล มีความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการของทุกบริษัทในเครือฯ ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจ สร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ทั้งผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุกิจ และสังคม โดยยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของพนักงาน บริษัทจึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และมีนโยบายที่ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

หัวข้อ ดาวน์โหลด
กรอบและนโยบายการดำเนินงานด้านพัฒนาอย่างยั่งยืน ดาวน์โหลด
นโยบายประหยัดพลังงาน ดาวน์โหลด
นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม ดาวน์โหลด
นโยบายการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ดาวน์โหลด



โครงสร้างการดำเนินงานด้านความยั่งยืน

เพื่อให้การกำกับดูแลการบริหารความยั่งยืนทางธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทจึงได้แต่งตั้งคณะบริหาร ความยั่งยืนทางธุรกิจ (SD Management Team) โดยมีประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานคณะบริหารความยั่งยืนทางธุรกิจ และมีกรรมการผู้จัดการของบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก และผู้บริหารสูงสุดของสายงานร่วมเป็นคณะบริหารความยั่งยืนทางธุรกิจ ซึ่งรายงานตรงต่อคณะกรรมการกำกับดูแลบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน และมีคณะทำงานด้านความยั่งยืนจากตัวแทนหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนให้การดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยมีความสอดคล้องกับนโยบาย กลยุทธ์ แผนการดำเนินงานและตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน


โครงสร้างดำเนินงานด้านความยั่งยืน


คณะกรรมการกำกับดูแลบรรษัทภิบาลและความยั่งยืนได้ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทให้เป็นไปตามนโยบายการดำเนินงานด้านพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท รวมทั้งติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะบริหารความยั่งยืนทางธุรกิจ (SD Management Team) และคณะทำงานด้านความยั่งยืน เพื่อให้บริษัทและบริษัทย่อยปฏิบัติตามกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อความยั่งยืนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องต่อไป และสอดคล้องกับประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน (ESG Materiality) กลยุทธ์ เป้าหมาย และตัวชี้วัดการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ปี 2567 – 2571 ของกลุ่มบริษัทไทยกรุ๊ป ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาร่วมกันจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ครอบคลุมทั้งมิติสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยสอดคล้องกับนโยบาย กลยุทธ์ แผนการดำเนินงานด้านธุรกิจของกลุ่มบริษัทไทยกรุ๊ป และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UNSDGs)




ห่วงโซ่คุณค่าของไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์

ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ประกอบด้วยธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจรถเช่า และธุรกิจการเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจบริการในอุตสาหกรรมประกันและการเงิน มีหลักการในการวางห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจไม่ต่างกันมาก โดยสรุปสาระสำคัญของห่วงโซ่ธุรกิจภายในกลุ่มบริษัท มีดังนี้


ห่วงโซ่คุณค่าของไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์




ผู้มีส่วนได้เสียตามห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท

บริษัทได้มีการระบุและวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสียเพื่อจัดลำดับความสำคัญโดยพิจารณาจาก
1. ระดับการมีส่วนร่วมในบริษัท และความเกี่ยวข้องในแต่ละกิจกรรมในห่วงโซ่คุณค่า
2. ผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับประโยชน์หรือผลกระทบจากบริษัท
3. ผู้ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท
4. ผู้มีอิทธิพลต่อกิจกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัท
5. ผู้มีความสนใจในผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท


ผู้มีส่วนได้เสียตามห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท




แนวทางปฏิบัติและผลการดำเนินงานการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียปี 2567


ลำดับความสำคัญ

ผู้มีส่วนได้เสีย ช่องทางการสื่อสาร ความคาดหวัง การตอบสนองต่อความคาดหวัง ผลการสร้างการมีส่วนร่วม
1 ผู้ถือหุ้น

- เว็บไซต์

- อีเมล

- จดหมาย

- รายงานประจำปี

- การประชุมผู้ถือหุ้น

- การบริหารและการกำกับดูแลกิจการอย่างโปร่งใส

- การเติบโตอย่างยั่งยืน

- ความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ

- ได้รับผลตอบแทนในเกณฑ์ที่ดี

- ความสามารถในการบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤต

- การกำกับดูแลกิจการที่ดี

- การบริหารและพัฒนาธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน

- การศึกษาและพัฒนาธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจและสร้างผลกำไรอย่างเป็นธรรม

- มีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

- มีการวางแผนและทบทวนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน

- มีแผนรับมือและการจัดการภาวะวิกฤต

 

- การจัดประชุมผู้ถือหุ้นตามวาระ และเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นแสดงความคิดเห็น รวมถึงการเสนอวาระการประชุมและเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท

- การจัดทำรายงานประจำปีเพื่อนำเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อทราบผลการดำเนินงาน

2 พนักงาน

- อีเมล

- อินทราเน็ต

- E-Survey

- งานประชุมพนักงาน

- กิจกรรมพนักงาน

- เว็บไซต์

- Facebook

- iVoice

- กล่องรับความคิดเห็น

- โปสเตอร์

- มีความก้าวหน้าในอาชีพ

- ได้รับสวัสดิการและค่าตอบแทนที่เหมาะสม

- ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม

- มีความปลอดภัยในสถานที่ปฏิบัติงาน

- มีความเคารพซึ่งกันและกัน

- ได้รับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
 

- การพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เหมาะสมกับตำแหน่ง หน้าที่ และการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ 

- การนำผลประเมินการทำงานมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาสวัสดิการและค่าตอบแทน

- มีการศึกษาจัดทำและสื่อสารนโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อให้พนักงานทุกคนรับทราบและปฏิบัติตามเพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีทั้งการปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และคนในสังคม

- เปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นพนักงานผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยไม่มีการเปิดเผยหรือให้โทษผู้ให้ข้อเสนอแนะหรือออกความเห็น รวมถึงการคุ้มครองพนักงานที่แจ้งเบาะแสการทุจริตและละเมิดจรรยาบรรณธุรกิจของบริษัท

- การจัดกิจกรรม Townhall เพื่อสื่อสารเป้าหมาย กลยุทธ์ และทิศทางให้พนักงานทั้งองค์กรทราบทั้งในรูปแบบ Face to Face และออนไลน์ พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงความคิดเห็น และสอบถามประเด็นต่าง ๆ กับผู้บริหารระดับสูงโดยตรง

- การเปิดโอกาสให้เข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทในวาระต่าง ๆ เช่น งานทำบุญครบรอบวันก่อตั้งบริษัท งานทำบุญประจำปี และกิจกรรมเทศกาลต่าง ๆ เป็นต้น

- อิสระในการนำเสนอวิธีการดำเนินงาน และการแสดงความคิดเห็นในการพัฒนาบริษัท ผ่านช่างทาง iVoice การเข้าร่วมประกวดแผนพัฒนาการดำเนินงานในโครงการ Think Tank ฯลฯ

- จัดช่องทางรับเรื่องร้องเรียน  ต่าง ๆ เช่น การแจ้งเบาะแสการทุจริตคอร์รัปชัน การไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจ ฯลฯ

- การจัดอบรมพัฒนาศักยภาพพนักงาน โดยมีรายละเอียดปรากฏตามส่วนการดำเนินงานด้านทรัพยากรบุคคล

- การปรับเพิ่มสวัสดิการและให้รางวัลประจำปีตามผลการประเมินการปฏิบัติงาน

- การจัดทำ Engagement Survey ประจำปีเพื่อสำรวจความผูกพันของพนักงานที่มีต่อบริษัท พร้อมแสดงความคิดเห็นเพื่อการพัฒนาองค์กรและบริหารความผูกพัน

3 ลูกค้า

- เว็บไซต์

- Line

- อีเมล

- จดหมาย

- SMS

- Facebook

- สาขาของบริษัทย่อย

- ศูนย์ดูแลลูกค้า

- ช่องทางรับเรื่องร้องเรียน

- สินค้าที่ตรงความต้องการ

- การบริการลูกค้าที่ดี เท่าเทียม รวดเร็ว

- ชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัท

- มีข้อมูลสินค้าและบริการที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และจริงใจ

- มีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและไซเบอร์

- มีความปลอดภัยในการเก็บรักษาและนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้

- สามารถเข้าถึงการประกันและการเงินได้

- การให้ความคุ้มครองและผลประโยชน์ตามสัญญากรมธรรม์

- การคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรม

- มีมาตรการด้านความปลอดภัยและการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

- การพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง

- มีการวางแผนและทบทวนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน

- มีแผนรับมือและการจัดการภาวะวิกฤต

- มีการสื่อสารให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการที่ชัดเจน ไม่โฆษณาเกินจริงและไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

- การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันและการเงินเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน แต่ละกลุ่มสามารถเข้าถึงได้

- หน่วยงานกำกับธุรกิจได้มีการตรวจสอบข้อความและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ขัดต่อ  ข้อห้ามและไม่เกินความเป็นจริงหรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ก่อนเผยแพร่โฆษณาผลิตภัณฑ์/บริการแต่ละรายการสู่ลูกค้า

- SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต หน่วยงานลูกค้าสถาบันได้มีการจัดอบรมให้ความรู้ด้านประกันและการเงินรวมถึงการบริหารความเสี่ยงให้กับลูกค้ารวม 6 ครั้ง

- SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต   จัดกิจกรรม Exclusive Concert เพื่อตอบแทนความไว้วางใจและสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้าและบริษัท นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการสร้างความมั่นคงทางการเงินและการดูแลสุขภาพที่ดีแบบองค์รวมให้กับลูกค้าองค์กรต่าง ๆ 3 โครงการ

- INSURE อินทรประกันภัย หน่วยงานลูกค้าสถาบันได้จัดอบรมเสริมสร้างความรู้ด้านความเสี่ยง พร้อมวิธีรับมือ เช่น การประกันภัยก่อสร้าง ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก รวม 4 โครงการ

- บริษัทได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษามาตรฐานการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างดีที่สุด เป็นผลให้บริษัทผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 27001 อย่างต่อเนื่อง

- การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าต่อผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทประจำปี

- พัฒนาระบบ iCEM เพื่อใช้บริหารจัดการการให้บริการลูกค้าที่มีเข้ามาผ่านช่องทาง  ต่าง ๆ ของบริษัทให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

4 พันธมิตรทางธุรกิจ

- เว็บไซต์

- อีเมล

- การประชุม

- โทรศัพท์

- Sale Platform

- จดหมาย

- พนักงานของบริษัท

- ข้อมูลสินค้าและบริการที่ชัดเจน

- ผลตอบแทนที่เหมาะสม

- การจ่ายค่าตอบแทนที่ตรงเวลา

- สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด

- ชื่อเสียงของบริษัท

- การบริการลูกค้า

- มีบรรษัทภิบาลที่ดีและโปร่งใส

- การบริหารความเสี่ยงที่ดี

- มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สะดวกในการใช้งานและปลอดภัย

- มีการสื่อสารให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการที่ชัดเจน ไม่โฆษณาเกินจริงและไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

- มีการตกลงจำนวนค่าตอบแทนและผลประโยชน์ รวมถึงกำหนดรอบการจ่ายอย่างชัดเจน

- การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันและการเงินเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน แต่ละกลุ่มสามารถเข้าถึงได้

- การพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง

- มีแผนรับมือและการจัดการภาวะวิกฤต

- มีการวางแผนและทบทวนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน

- การดูแลกำกับกิจการตามหลัก   ธรรมาภิบาลที่ดี

- มีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

- จับมือพันธมิตรใหม่กับธนาคารแห่งประเทศจีน และบริษัท  เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของทั้งสองฝ่าย

- รักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรเก่าอย่างต่อเนื่อง เช่น AIS SCB ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) Toyota Isuzu MG ฯลฯ

- ให้การสนับสนุนการดำเนินงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี เช่น การแข่งขันมาราธอน CBD We Run งานวิ่งเฉลิมพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2567

- การส่งจดหมายเชิญพันธมิตรทางธุรกิจเข้าร่วมเป็นสมาชิกต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย

5 ตัวแทน / นายหน้า

- เว็บไซต์

- อีเมล

- การประชุม

- โทรศัพท์

- Sale Platform

- จดหมาย

- สาขาของบริษัทย่อย

- พนักงานของบริษัท

- การอบรมสัมมนา

- ข้อมูลสินค้าและบริการที่ชัดเจน

- ผลตอบแทนที่เหมาะสม

- การจ่ายค่าตอบแทนที่ตรงเวลา

- สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด

- ชื่อเสียงของบริษัท

- การบริการลูกค้า

- มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี

- มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สะดวกในการใช้งานและปลอดภัย

- มีการสื่อสารให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการที่ชัดเจน ไม่โฆษณาเกินจริงและไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

- มีการตกลงจำนวนค่าตอบแทนและผลประโยชน์ รวมถึงกำหนดรอบการจ่ายอย่างชัดเจน

- การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันและการเงินเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนแต่ละกลุ่มสามารถเข้าถึงได้

- การพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง

- มีแผนรับมือและการจัดการภาวะวิกฤต

- มีการวางแผนและทบทวนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน

- การกำกับดูแลกิจการตามหลัก   ธรรมาภิบาลที่ดี

- มีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

- บริษัทมีการพัฒนาและฝึกอบรมตัวแทนและนายหน้าด้านผลิตภัณฑ์ การบริการ และข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องโดยมีรายละเอียดปรากฏตามผลการดำเนินงานการส่งเสริมการเข้าถึงการประกันและการเงิน และผลการพัฒนาฝึกอบรมพนักงานในส่วนของผลการดำเนินงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล

- บริษัทมีการจัดแคมเปญกระตุ้นการสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง เช่น รางวัลทริปท่องเที่ยว รางวัล Incentive Bonus และรางวัลประจำปี เป็นต้น

- การพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้ตัวแทนและนายหน้าสามารถใช้เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

6 สังคม

- เว็บไซต์

- ข่าวประชาสัมพันธ์

- กิจกรรมเพื่อสังคม

- Facebook

- Line

- การเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันและการเงิน

- การส่งมอบประโยชน์ต่อสังคม

- การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

- การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันและการเงินเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนแต่ละกลุ่มสามารถเข้าถึงได้

- การดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม

- การดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมในกระบวนการดำเนินธุรกิจ

- บริษัทมีการออกผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ เช่น INSURE อินทรประกันภัยออก Micro Insurance ที่มีเบี้ยต่ำกว่า 200 บาท อาคเนย์ มันนี่ ออกสินเชื่อเกษตรกรให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย และสินเชื่อเพื่อธุรกิจ Solar Rooftop    โดยมีรายละเอียดปรากฏตาม ผลการดำเนินงานในหัวข้อการส่งเสริมการเข้าถึงการประกันและการเงิน 

- การจัดกิจกรรม Wealth & Well-being Day เพื่อให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการเพื่อความมั่นคงทางการเงิน โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 200 คน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

- กิจกรรมกายใจยั่งยืน ด้วยวิถีแห่งพลังชีวิต เพื่อให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพทางเลือก โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 200 คน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

7 หน่วยงานกำกับ

- การประชุมรับฟังนโยบายและข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับ

- จดหมายชี้แจง

- รายงานประจำปี

- การติดต่อประสานงาน

- การดำเนินธุรกิจตามกฎหมายและข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับ

- การเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันและการเงินของสังคม

- การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

- การกำกับดูแลกิจการตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี

- การดำเนินธุรกิจภายใต้กฎหมาย และข้อกำหนด

- การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันและการเงินเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนแต่ละกลุ่มสามารถเข้าถึงได้

- ได้ปฏิบัติตามนโยบายและข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด และให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานครบรอบการก่อตั้ง ฯลฯ

- ส่งพนักงานเข้าร่วมกิจกรรมและการอบรมที่ คปภ. และสมาคมประกันชีวิตไทยและประกันวินาศภัยไทยจัด เช่น การซ้อมแผนรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ การสัมมนา “Climate Risk Management For Life Insurers” งานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานฯลฯ

 

ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน




การกำหนดประเด็นด้านความยั่งยืน


บริษัทมีกระบวนการในการกำหนดและการจัดลำดับประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน ดังนี้
  1. ศึกษาและวิเคราะห์ ปัจจัยความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท อาทิ ดัชนีชี้วัดจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประเด็นความยั่งยืนจากบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แนวโน้มของอุตสาหกรรมในระดับสากล ฯลฯ เพื่อนำมาระบุตัวตั้งต้นของประเด็นความสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทครอบคลุมทั้ง 3 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
  2. จัดลำดับประเด็นความยั่งยืน โดยประเมินจากความสำคัญที่มีผลกระทบต่อบริษัท และพิจารณาข้อมูลที่ได้จากการดำเนินกิจกรรม สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียของบริษัททั้งภายในและภายนอก แล้วนำมาจัดลำดับในรูปแบบ Materiality Matrix เพื่อให้ทราบถึงระดับความสำคัญทั้งในส่วนของประเด็นที่มีความสำคัญต่อบริษัท และประเด็นที่มีความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสีย
  3. การทวนสอบความถูกต้องและครบถ้วน โดยนำผลการจัดลำดับประเด็นความยั่งยืนนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูง เพื่อพิจารณาความครบถ้วน ถูกต้อง และให้ความคิดเห็น เพื่อปรับปรุงและเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสารของบริษัทต่อไป
  4. พัฒนาการรายงานด้านความยั่งยืน บริษัทจะมีการทบทวนเนื้อหาสำคัญในรายงานด้านความยั่งยืนรวมถึงกระบวนการจัดทำรายงานความยั่งยืนในทุกปี รวมทั้งเปิดรับความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียเพื่อพัฒนารายงานความยั่งยืนในฉบับต่อ ๆ ไป

  

ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน

  

การพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยกรุ๊ป

  

เป้าหมายและผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่กำหนดเป็นกลยุทธ์
ปี 2567 – 2571(เทียบจากปีฐาน 2566)





มิติเศรษฐกิจ/บรรษัทภิบาล


การเงินที่ยั่งยืน


ประเด็นความยั่งยืนที่ 4 การเงินเพื่อความยั่งยืน
เป้าหมายปี 2571 เป้าหมายปี 2567 ผลการดำเนินงานปี 2567
80% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมดเป็นการลงทุนโดยพิจารณาด้าน ESG ร่วมด้วย 30% 85% ของสินทรัพย์ลงทุนในปัจจุบันมีเกณฑ์ในการพิจารณาเรื่อง ESG สำหรับการตัดสินใจลงทุนแล้ว
มีแนวทาง ESG 100% สําหรับธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด รวมถึงการลงทุน การอนุมัติสินเชื่อ และการจัดซื้อจัดจ้าง 30%

บริษัทมีการพิจารณาสินเชื่อโดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าทุกราย หรือ 100% เพื่อลดปัญหาการสร้างหนี้ครัวเรือนที่เกินความสามารถของลูกค้าซึ่งจะส่งผลกระทบด้านอื่น ๆ ของลูกค้า และลดโอกาสการเกิดหนี้เสียให้กับบริษัท

ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างอยู่ระหว่างการดำเนินการประเมินด้าน ESG ในการพิจารณาคัดเลือก Supplier/Vendor รายใหม่ และรายปัจจุบัน


บริษัทและบริษัทย่อยสนับสนุนให้มีนวัตกรรมทั้งในระดับกระบวนการทำงานในองค์กร และในระดับความร่วมมือระหว่างองค์กรซึ่งหมายถึงการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยวิธีใหม่ ๆ และยังอาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางความคิด การผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่า เป้าหมายของบริษัทและบริษัทย่อยมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง ด้วยความสุจริต เป็นธรรม โปร่งใส เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญ และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งบริษัทและบริษัทย่อยจะคำนึงถึงผลประโยชน์และผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมถึงมีการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม บริษัทได้รับการรับรองเป็นสมาชิกของแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thailand's Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption: CAC) ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งครบกำหนดอายุการรับรอง 3 ปี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 ทั้งนี้ บริษัทได้รับการต่ออายุการรับรองครั้งที่ 1 แล้ว และจะครบกำหนดการต่ออายุครั้งที่ 2 ในวันที่ 31 มีนาคม 2570 บริษัทได้ดำเนินการตามนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันและสื่อสารไปยังพนักงานเพื่อให้พนักงานทุกคนรับทราบ ตระหนักถึงผลกระทบต่อการทุจริตคอร์รัปชัน และปฏิบัติตามนโยบายด้วยการต่อต้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเปิดช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนการทุจริตเพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มสามารถแจ้งเบาะแสมายังหน่วยงานที่รับเรื่องกรณีถูกละเมิดสิทธิหรือพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย/ระเบียบ/จรรยาบรรณธุรกิจของบริษัท ดังนี้

1.จดหมายส่งทางไปรษณีย์
  ถึง:ประธานคณะกรรมการบริษัท ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ประธานกรรมการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน หรือคณะกรรมการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน
  ที่อยู่:บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 315 อาคารไทยกรุ๊ป ชั้นที่ 12 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
2.เว็บไซต์บริษัท https://www.tgh.co.th/ztc



กระบวนการจัดการเรื่องร้องเรียน


กระบวนการจัดการเรื่องร้องเรียน




กระบวนการจัดการการฝ่าฝืนจรรยาบรรณธุรกิจ/ การทุจริต และแก้ไขป้องกัน


กระบวนการจัดการการฝ่าฝืนจรรยาบรรณธุรกิจ/ การทุจริต และแก้ไขป้องกัน


บริษัทและบริษัทย่อยสนับสนุนให้มีนวัตกรรมทั้งในระดับกระบวนการทำงานในองค์กร และในระดับความร่วมมือระหว่างองค์กรซึ่งหมายถึงการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยวิธีใหม่ ๆ และยังอาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางความคิด การผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่า เป้าหมายของนวัตกรรมคือการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก เพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ก่อผลิตผลที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมสูงสุด อาทิ
- Line OA @Thai Group ที่บริษัทได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อลูกค้าของกลุ่มบริษัทโดยเฉพาะ โดยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานเพื่อให้บริการลูกค้าของบริษัทย่อยได้แบบครบจบในที่เดียว ทั้งลูกค้าประกันส่วนบุคคลและประกันกลุ่ม ทั้งลูกค้า SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต INSURE อินทรประกันภัย และลูกค้ารถยนต์มือสองของ RDD รถดีเด็ด ออโต้ สามารถเข้าถึงการบริการได้แบบ 24/7 Digital Access โดยได้ให้ความสะดวกแก่ลูกค้าทั่วประเทศ ทุกพื้นที่ตั้ง รวมกว่า 500,000 คน นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยสามารถลดการใช้ทรัพยากรต้นไม้จากการให้บริการเดิมที่ต้องยื่นแบบฟอร์มกระดาษ โดยในปี 2567 ลูกค้ายื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์จำนวน 4,688 คำขอ คิดเป็นกระดาษที่ลดลงจำนวน 22,384 แผ่น เทียบเท่าต้นไม้ 3.73 ต้น
- D Life แพลตฟอร์ม ช่องทางที่ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิตได้สร้างขึ้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ตัวแทนของบริษัทสามารถส่งมอบบริการให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงสุด


ไลน์ไทยกรุ๊ป-dlife


นอกจากนี้ ในปี 2567 ไทยกรุ๊ปยังได้สร้างระบบ i-CEM (Customer Engagement Management) หรือไอซีอีเอ็ม โดยนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทำงานอัตโนมัติ (Robotic Process Automation: RPA) และกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ (Workflow Automation) มาช่วยบริหารจัดการการดูแลลูกค้าที่แจ้งเรื่องเข้ามาผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากบริการที่สะดวกและรวดเร็ว โดยช่วยลดภาระการทำงานที่ซ้ำซ้อนของทีมงาน เช่น การป้อนข้อมูล หรือการติดตามเรื่องลูกค้าแบบ Manual ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานด้วย Workflows ที่ชัดเจน ช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากผู้ปฏิบัติงาน และช่วยให้ทีมงานสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ เพิ่ม SLA ให้สามารถติดตาม และบริหารจัดการได้ดีขึ้น ทั้งช่วยให้บริษัทสามารถลดความเสี่ยงจากค่าปรับหรือความล่าช้าในการดำเนินการ ทั้งยังสามารถขยายขนาดของระบบเพื่อรองรับปริมาณงานจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น และสามารถเก็บข้อมูลการให้บริการเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การให้บริการได้แบบ Real Time โดยในปี 2567 ได้ให้ความสะดวกรวดเร็วและสร้างประสบการณ์ที่ดีจากการให้บริการที่มีประสิทธิภาพเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันในทุกช่องทางบริการแก่ลูกค้ารวมกว่า 1.86 ล้านรายการ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจ ความไว้วางใจและได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าต่อบริการของบริษัทมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง




นโยบายด้านภาษีอากรของบริษัท

เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่องให้กับผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมและวัฒนธรรมขององค์กร บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านภาษีโดยยึดหลักความถูกต้อง โปร่งใส มุ่งมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ และเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติงานของกลุ่มบริษัทให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน บริษัทจึงกำหนดแนวปฏิบัติด้านภาษีอากร ดังนี้
1.การปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอากร (Compliance) บริษัทยึดถือและปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ดำเนินการเสียภาษีอย่างถูกต้องครบถ้วน และวางแผนด้านภาษีให้เกิดประโยชน์อย่างเหมาะสมและถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
2.จริยธรรมองค์กร (Corporate Ethics) นโยบายการบริหารจัดการด้านภาษี ได้กำหนดจากหลักจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยมีหลักการพื้นฐานการปฏิบัติงานด้วยความสุจริต มีคุณธรรม ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อสนับสนุนและยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดี สนับสนุนการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
3.การกำหนดราคาโอน (Transfer Pricing) บริษัทกำหนดมูลค่าหรือราคาโอนของธุรกรรมระหว่างกลุ่มบริษัทในเครือ โดยอ้างอิงราคาตลาดทางการค้าปกติ สอดคล้องตามหลักการ Arm’s Length เพื่อให้การชำระภาษีเป็นไปอย่างถูกต้อง
4.การจัดโครงสร้างภาษี (Tax Structuring) บริษัทดำเนินการจัดโครงสร้างทางภาษีให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ ด้วยความโปร่งใส ไม่ขัดต่อกฎหมาย และไม่ก่อให้เกิดการหลีกเลี่ยงภาษี
5.การประสานงานและความโปร่งใสด้านภาษี (Relationship with Tax Authority or Others) บริษัทจัดให้มีผู้รับผิดชอบด้านภาษีที่มีความรู้และทักษะด้านภาษีในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานด้านภาษีของราชการ เพื่อให้ข้อมูลทางภาษีที่ถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริงในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการในการตรวจสอบภาษีอากร ตลอดจนมีการเปิดเผยข้อมูลภาษีเงินได้ในรายงานทางการเงินของบริษัท เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย
6.การพัฒนาความรู้ด้านภาษีอากร (TaxTraining) บริษัทจัดให้มีการพัฒนาความรู้ด้านกฎหมายภาษีอากรให้กับบุคลากรของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจในกฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และมีการให้คำปรึกษาด้านภาษีอากรกับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในองค์กร เพื่อให้ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายภาษี
7.สิทธิประโยชน์ทางภาษี (Tax Incentives) บริษัทดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเหมาะสมและเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย




แนวปฏิบัติการดำเนินการกับคู่ค้าและกำหนดระยะเวลาชำระเงินให้แก่คู่ค้า

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของคู่ค้าเสมอมา จึงปฏิบัติต่อคู่ค้าทุกรายด้วยความเสมอภาคและยุติธรรมในการทำธุรกิจ ปฏิบัติตามสัญญาและเงื่อนไขทางการค้าต่าง ๆ ที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการสภาพคล่อง ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งได้ บริษัทจะรีบแจ้งให้คู่ค้าทราบโดยเร็ว เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไขโดยใช้หลักความสมเหตุสมผล บริษัทมีกำหนดและสื่อสารรอบระยะเวลาการชำระเงินให้แก่คู่ค้า โดยบริษัทมีกำหนดระยะเวลาเครดิตเทอมเฉลี่ยอยู่ที่ 30 วัน และขึ้นอยู่กับเงื่อนไขข้อตกลงระหว่างบริษัทและคู่ค้า ซึ่งระยะเวลาชำระเงินให้แก่คู่ค้าเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจริงอยู่ภายในกำหนดเครดิตเทอมที่กำหนด


ระยะเวลาเครดิตเทอม ระยะเวลาเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจริงในปี 2567
30 วัน 22 วัน


เกณฑ์และผลการพิจารณาและกำหนดกลุ่มคู่ค้าสำคัญ

Critical Tier 1 (คู่ค้าสำคัญที่ทำธุรกิจโดยตรงกับบริษัท) และ Critical Non-Tier 1 (คู่ค้าสำคัญที่ไม่ได้ทำธุรกิจโดยตรงกับบริษัท)


เกณฑ์และผลการพิจารณาและกำหนดกลุ่มคู่ค้าสำคัญ




มิติสังคม


การเข้าถึงประกันและการเงิน 1- TH


ประโยชน์จากการรับความรู้-TH


ความรู้ที่เพิ่มขึ้นจากการอบรม-TH


การเข้าถึงประกันและการเงิน 2-TH


ประเด็นความยั่งยืนที่ 4 การส่งเสริมการเข้าถึงการประกันและการเงิน
เป้าหมายปี 2571 เป้าหมายปี 2567 ผลการดำเนินงานปี 2567
เพิ่มความตระหนักรู้ทางการเงินและการประกันภัยสําหรับ 500,000 คน ผ่านช่องทางห้องสัมมนา และออนไลน์ผ่านสื่อของบริษัท

รวม 100,000 คน

- SE Life: 50,000 คน

- SECAP: 1,000 คน

- INSURE: 50,000 คน

- SEM/SEMR: 300 คน

รวม 382,194 คน

- SE Life: 123,262 คน (246%)

- SECAP: 2,492 คน (249.2%)

- INSURE: 256,172 คน (512%) 

- SEM/SEMR: 268 คน (89%)

เพิ่มการเข้าถึงทางการเงินและการประกันภัยสําหรับกลุ่มที่ด้อยโอกาส

SE Life: 1% ของกลุ่มเปราะบาง มีการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพิ่มขึ้น (เปรียบเทียบกับจำนวนลูกค้าทั้งหมด) 

(หมายเหตุ: กลุ่มเปราะบางของ SE Life คือ ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท)

0.22%

SEMR: 5% ของกลุ่มเปราะบาง สามารถเข้าถึงการบริการด้านการเงินได้มากขึ้น

(หมายเหตุ: กลุ่มที่เปราะบางของ SEMR คือ เกษตรกรชาวไร่อ้อย)

47%

INSURE: ขายกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุแบบไมโคร อินชัวรันส์ 10,000 กรมธรรม์ (200 บาทต่อกรมธรรม์)

(หมายเหตุ: ประกันภัยอุบัติเหตุแบบไมโคร อินชัวรันส์ ครอบคลุมประกันกลุ่มสำหรับแรงงานต่างด้าวที่มีรายได้น้อย และการให้ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลฟรี)

98% ของเป้าหมาย

(หรือคิดเป็นประมาณ 9,800 กรมธรรม์)

ดําเนินโครงการพัฒนาพนักงานเพื่อปรับปรุงการประกันภัยและความรู้ทางการเงิน ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดีและความยั่งยืน 60% ของพนักงานทั้งหมดได้รับการฝึกอบรม  98%
ผู้ได้รับการอบรมด้านประกันและการเงินมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3% 3%
คะแนนการมีส่วนร่วมของพนักงานเพิ่มขึ้น 3% จากปี 2566 เพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเปรียบเทียบกับ ปี 2566
ดําเนินโครงการเพื่อสวัสดิการพิเศษให้กับพนักงานและครอบครัว จำนวน 5 โครงการ 1 โปรแกรม

1 โปรแกรม

ได้แก่ สวัสดิการสำหรับพนักงานผู้ชายเพื่อดูแลบุตร (คุณพ่อลาคลอด)

คะแนนความพึงพอใจของพนักงานจากการจัดโครงการเพื่อสวัสดิการพิเศษเพิ่มขึ้น 10% จากปีฐาน 2566 คะแนนความพึงพอใจของพนักงานต่อโครงการสวัสดิการเพิ่มขึ้น 3% จากคะแนนฐาน เลื่อนการประเมินเป็นสิ้นปี 2568

บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายสนับสนุนและเคารพการปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยการปฏิบัติต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ชุมชน และสังคมรอบข้างด้วยความเคารพในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ คำนึงถึงความเสมอภาคและเสรีภาพที่เท่าเทียมกัน ไม่ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน และไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ภาษา สีผิว เพศ อายุ การศึกษา สภาวะทางร่างกาย หรือสถานะทางสังคม รวมถึงจัดให้มีการดูแลไม่ให้ธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การบังคับใช้แรงงาน (Forced labor) การใช้แรงงานเด็ก (Child Labor) และการคุกคามทางเพศ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทและบริษัทย่อยได้ส่งเสริมให้มีการเฝ้าระวังการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิทธิมนุษยชน โดยจัดให้มีการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและช่องทางในการร้องเรียนสำหรับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิอันเกิดจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อย และดำเนินการเยียวยาตามสมควร ทั้งนี้ เพื่อให้การเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทและบริษัทย่อยได้ดำเนินการสร้างองค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนและปลูกจิตสำนึกให้บุคลากรของบริษัทและบริษัทย่อยปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน


ความหลากหลายฯ -TH


ลาออกโดยสมัครใจ - TH


ค่าตอบแทนแยกตามเพศ - TH


บริษัทได้ดูแลพนักงานของบริษัทและทุกบริษัทในเครือตามหลักสิทธิมนุษยชน สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ มอบสวัสดิการที่เหมาะสมและเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เปิดโอกาสในการแสดงความคิดเห็นเพื่อร่วมพัฒนาองค์กร มีการพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานมีความเชี่ยวชาญและเป็น มืออาชีพ สามารถพัฒนาการทำงานและสร้างผลงานที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาและทันต่อการแข่งขันของธุรกิจ มีความสุขในการทำงาน มีความภาคภูมิใจ มีความรัก ความผูกพันกับองค์กร


ทั้งนี้จากการตรวจสอบทุกช่องทางร้องเรียนของบริษัททั้งจากบุคลภายในและบุคคลภายนอก ไม่พบการร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน

การร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน


เป้าหมายการพัฒนาความรู้ความสามารถพนักงาน - TH


สถิติอุบัติเหตุจากการทำงาน - TH




มิติสิ่งแวดล้อม


ผลิตภัณฑ์และบริการคาร์บอนต่ำ 1 - TH


จำนวนรถ EV และ Hybrid


1-TH


ประเด็นความยั่งยืนข้อที่ 1 ผลิตภัณฑ์และการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เป้าหมายปี 2571 เป้าหมายปี 2567 ผลการดำเนินงานปี 2567
ส่งเสริมให้บริษัทในเครือพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำและเพิ่มรายได้ 2,000 ล้านบาท จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

เป้าหมายรวมรายได้ 278 ล้านบาท จากผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ

(เป็นการปรับเป้าหมายใหม่จากเดิม 1,000 ล้านบาท เนื่องจากประเด็นความเสี่ยงทางธุรกิจที่ยังคงสูงอยู่) ประกอบด้วย

ผลการดำเนินงานรวม รายได้ 411 ล้านบาท จากผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ

SECAP

- ให้เช่ารถ EV, xEV, PHEV และ Hybrid จำนวน 600 คัน หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 158 ล้านบาท

SECAP 

- ให้เช่ารถ EV, xEV, PHEV และ Hybrid จำนวน 964 คัน (160% ของเป้าหมาย) และคิดเป็นรายได้จำนวน 254 ล้านบาท (160% ของเป้าหมาย)

SEM

- ปล่อยสินเชื่อเพื่อธุรกิจ Solar Rooftop 40 ล้านบาท 

SEM

- ปล่อยสินเชื่อเพื่อธุรกิจ Solar Rooftop อาคาร ในปี 2567 เบิกจ่ายแล้วจำนวน 64.44 ล้านบาท (161% ของเป้าหมาย)  

INSURE (เป้าหมายที่ปรับปรุงแล้ว)

- ขายประกันภัยรถยนต์ EV, Hybrid, PHEV และ Green Product จำนวน 2,700 กรมธรรม์

- คิดเป็นรายได้จากเบี้ยรับประกัน จำนวน 80 ล้านบาท

- คิดเป็น 2% ของรายได้จากเบี้ยรับประกันทั้งหมด (5,555   ล้านบาท)

INSURE

- 3,269 กรมธรรม์ (121% ของเป้าหมาย) (รถ EV 190 กรมธรรม์ รถ Hybrid/PHEV 3,072 กรมธรรม์ และผลิตภัณฑ์ Solar Cell Power Plant 7 กรมธรรม์)

- คิดเป็นรายได้จากเบี้ยรับประกัน 92.83 ล้านบาท (116% ของเป้าหมาย)

- คิดเป็น 1.78% ของรายได้จากเบี้ยรับประกันทั้งหมด (5,555 ล้านบาท) (89% ของเป้าหมาย)

ลดการพิมพ์/กระดาษที่ใช้งานได้ลง 80% ลดการพิมพ์/กระดาษที่ใช้งานได้ลง 20%

32.3%
 
- ปี 2567 ลดการพิมพ์/กระดาษที่ใช้งานได้ 48,746 กิโลกรัม หรือ 9,374,231 แผ่น หรือคิดเป็นต้นไม้ 1,562 ต้น

- ปี 2566 ลดการพิมพ์/กระดาษที่ใช้งานได้ 72,016 กิโลกรัม หรือ 13,849,417 แผ่น หรือคิดเป็นต้นไม้ 2,308 ต้น

การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 28% การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 5%

45%

- ปี 2567 = 4,670 tCO2e

- ปี 2566 = 3,202 tCO2e

(เนื่องจากมีการขยายขอบเขตการจัดเก็บข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น)


นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมให้บริษัทในเครือมีการให้สินเชื่อ (Project Finance) แก่ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยมีการพิจารณาให้สินเชื่อที่ยืดหยุ่นในเกณฑ์การพิจารณาและคุณสมบัติ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงเงินทุนได้สะดวกมากขึ้น และให้อัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ เป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันผู้ประกอบการที่ได้รับสินเชื่อนี้ สามารถก่อสร้างและให้บริการไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) แล้วเสร็จ สามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า จำนวนทั้งสิ้น 58 แห่ง กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 48,78 MW.


สินเชื่อธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม


หมายเหตุ: บริษัทมีการตั้งเป้าหมายใหม่ให้มีความท้าทายขึ้นเนื่องจากผลการดำเนินงานปัจจุบันเกินเป้าหมายหมายที่เคยตั้งไว้

ขณะที่บริษัท อาคเนย์แคปปิตอล จำกัด หรือ SECAP มีความพร้อมในการจัดหารถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) รวมถึงรถยนต์ Hybrid และ Hybrid Plug in เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม จากการลดใช้พลังงานฟอสซิลและลดการปล่อยมลพิษหรือก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases: GHGs) เพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้ออกนโยบาย 30@30 คือ การตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 2573 โดยบริษัทมีเป้าหมายนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาให้บริการเพื่อลดการปล่อยมลพิษหรือก๊าซเรือนกระจก และลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล

โดยในปี 2567 บริษัทมีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงรถยนต์ Hybrid และ Hybrid Plug in ที่ให้บริการรวม 964 คัน (ร้อยละ 160 ของเป้าหมายปี 2567) และคิดเป็นรายได้จำนวน 254 ล้านบาท (160% ของเป้าหมาย)

สำหรับบริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ออกผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความคุ้มครองรถยนต์ EV, Hybrid, PHEV และความคุ้มครอง Solar Rooftop รวมจำนวน 3,269 กรมธรรม์ (ร้อยละ 121 จากเป้าหมายปี 2567) คิดเป็นรายได้จำนวน 92.83 ล้านบาท (ร้อยละ 116 จากเป้าหมายปี 2567)



การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

บริษัทมีเป้าหมายในการร่วมลดก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อยร้อยละ 28 จากปี 2566 ภายในปี 2571 โดยส่งเสริมให้พนักงานทำงานบนระบบออนไลน์เพื่อลดการใช้เอกสารกระดาษ รวมถึงการรณรงค์เพื่อร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ การทำงานผ่านระบบออนไลน์ ด้วยการจัดทำระบบ i-Series เพื่อดำเนินการในระบบออนไลน์ อาทิ ระบบประเมินผลการปฏิบัติงาน ระบบจองห้องประชุม รวมถึงการบริหารจัดการขยะของเสียภายในองค์กรการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ด้วยการคัดแยกขยะก่อนทิ้งและส่งกำจัดอย่างถูกวิธี และมีเป้าหมายในการลดกระดาษจากกระบวนการทำธุรกิจ อย่างน้อยร้อยละ 5 ต่อปี โดยส่งเสริมให้ตัวแทน ลูกค้า คู่ค้า ใช้บริการส่งใบคำขอออนไลน์ (e-Application) และรับกรมธรรม์ออนไลน์ (e-Policy) รวมถึงการขอใช้บริการหลังการขายผ่านระบบออนไลน์ ผ่านระบบ D-Life โดย 100 e-Application/ e-Policy เท่ากับต้นไม้ 1 ต้น โดยทุก ๆ ต้นไม้ 1 ต้นที่ได้จากการปรับกระบวนการในการทำธุรกิจของบริษัทมาเป็นระบบออนไลน์ บริษัทจะสมทบปลูกเพิ่ม 1 ต้น โดยมีเป้าหมายในการปลูกต้นไม้รวมอยู่ที่ 100,000 ต้น หรือเทียบเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 900 – 1,500 กิโลตัน/ปี


การปล่อยก๊าซเรือนกระจก - TH


จำนวนการใช้กระดาษ


ค่าเฉลี่ยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 3.046 tCO2e ต่อคน


สำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ บริษัทมีการรณรงค์ให้พนักงานใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและใช้เท่าที่จำเป็น ส่วนการจัดการน้ำเสีย บริษัทได้มีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียอย่างถูกต้องตามกฎหมายอาคารควบคุม เพื่อบำบัดก่อนทิ้งลงสู่ ท่อระบายน้ำสาธารณะ โดยบริษัท อาคเนย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท เอเชียติ๊กเฮาส์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารเช่าที่ตั้งสำนักงานของบริษัทได้ผ่านการตรวจสอบอาคารเป็นประจำทุกปี ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 8 (6) ระบบการจัดการเกียวกับสภาพแวดล้อมของอาคาร เช่น ระบบการจัดแสงสว่าง การระบายอากาศ การปรับอากาศ การฟอกอากาศ การระบายน้ำ การบําบัดนําเสีย และการกําจัดขยะมูลฝอยและสิงปฏิกูล ทั้งนี้ ด้วยพื้นที่เดิมของบริษัทมีจำกัด จึงไม่สามารถจัดทำบ่อพักน้ำเพื่อบำบัดและนำกลับมาใช้หมุนเวียนใหม่ได้


จำนวนหลอดไฟ -TH


สำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ บริษัทมีการรณรงค์ให้พนักงานใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและใช้เท่าที่จำเป็น ส่วนการจัดการน้ำเสีย บริษัทได้มีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียอย่างถูกต้องตามกฎหมายอาคารควบคุม เพื่อบำบัดก่อนทิ้งลงสู่ ท่อระบายน้ำสาธารณะ โดยบริษัท อาคเนย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท เอเชียติ๊กเฮาส์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารเช่าที่ตั้งสำนักงานของบริษัทได้ผ่านการตรวจสอบอาคารเป็นประจำทุกปี ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 8 (6) ระบบการจัดการเกียวกับสภาพแวดล้อมของอาคาร เช่น ระบบการจัดแสงสว่าง การระบายอากาศ การปรับอากาศ การฟอกอากาศ การระบายน้ำ การบําบัดนําเสีย และการกําจัดขยะมูลฝอยและสิงปฏิกูล ทั้งนี้ ด้วยพื้นที่เดิมของบริษัทมีจำกัด จึงไม่สามารถจัดทำบ่อพักน้ำเพื่อบำบัดและนำกลับมาใช้หมุนเวียนใหม่ได้


การใช้น้ำประปา


ปริมาณการใช้ไฟฟ้า


สื่อรณรงค์ประหยัดพลังงานจุดต่าง ๆ ภายในอาคารสีลมและสุรวงศ์ โดยรณรงค์อย่างต่อเนื่องจากปี 2566-2567


สื่อรณรงค์


การบริหารจัดการขยะของเสียที่คัดแยก

ส่วนงานอาคารและสถานที่ผู้ดูแลการบริหารจัดการขยะของเสียได้ดำเนินการรวบรวมคัดแยกขยะและส่งกำจัดอย่างถูกวิธี โดยมีสรุปปริมาณขยะและของเสียของบริษัท ดังนี้

ปริมาณขยะและของเสียของบริษัท

หน่วย: กิโลกรัม

ปริมาณขยะและของเสีย ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567
ไม่อันตราย 16,199.00 40,444.00 42,950.00 135,086
อันตราย 8.00 0.00 96.00 141
รวม 16,207.00 40,444.00 43,046.00 135,227

หมายเหตุ: ประมาณขยะในปี 2567 เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีการบริหารจัดการอย่างถูกวิธีโดยเก็บรวมรวมและคัดแยกประเภทขยะที่ครอบคลุมมากขึ้น

บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท ไทยเบฟรีไซเคิล จำกัด ในการรับขยะไปรีไซเคิลตามกระบวนการ และขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ บริษัทได้ส่งมอบให้กับรถจัดเก็บขยะของสำนักงานเขตบางรักเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี


การบริหารจัดการขยะของเสียที่คัดแยก